
ม้า อรนภา ซึ้งน้ำตาไหล ดาราช่วยซื้อห่อหมก ลั่นถ้ายังมีลมหายใจก็สู้ต่อไป
หลังจากที่ ม้า อรนภา เจอดราม่าเมื่อหลายปีก่อน จนทำให้ต้องหายไปจากวงการบันเทิง แต่ก็ยังมีข่าวคราวออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามอยู่บ้างผ่านทางโซเชียลของเจ้าตัว
ซึ่งหลังจากที่ต้องหยุดทำงานในวงการบันเทิง ม้า อรนภา ก็ไปขายห่อหมก และขายของออนไลน์เพื่อเลี้ยงตัวเองหลังจากไม่มีงานในวงการบันเทิง และล่าสุดได้มานั่งเปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตในรายการแฉ ซึ่งม้าเปิดใจเล่าถึงชีวิตให้ฟังว่า
จะเข้าปีที่ 4 ที่ขายห่อหมก ขายของออนไลน์ ชีวิตตอนนี้แฮปปี้มาก ดีที่สุด ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ ก็ต้องสู้อยู่ทุกวันอะเนอะ นอกจากหมดลมหายใจเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องไปกระวีกระวาดกระวนกระวายอะไรในชีวิต ไม่ได้ออกหน้าจอเข้าปีที่ 4 แล้ว
แต่ก็มีหลายคนแวะเวียนมากินห่อหมกแม่ดิฉัน ขายดีมาก ชั่วโมงเดียวหมด ต้องขอบคุณมากเลย ที่ขายดีเพราะอร่อย ต้องของดี มันถึงขายดี ที่มีน้ำตาเพราะมันรู้สึกปีติ เวลาพวกน้องๆ มา รู้สึกปีติที่ทุกคนยังให้ความสำคัญและเห็นอกเห็นใจเราอยู่
ถามว่าคิดถึงงานในวงการมั้ย ถ้าเรียกก็กลับมาทันที มันทำมาตลอดชีวิต แต่ถ้าถามว่าไม่มาได้มั้ยก็ได้ เพราะเราทำมา 30-40 ปี มันก็เยอะพอสมควรแล้ว เราก็ถามตัวเองตลอดเวลา ตอนที่เราทำรายการโทรทัศน์ว่ามันจะจบตอนไหน พวกเรามีจุดเริ่มต้น แล้วมันก็จะมีจุดสิ้นสุด พี่อยู่ในวงการมา 30 จะ 40 ปีแล้ว ถ้ารวมนางแบบก็ 40 กว่าปีแล้ว เป็นเดินแบบและถ่ายแมกกาซีน
หลายคนมองว่าการที่เกิดเหตุการณ์นั้นเพราะพี่ม้าเป็นผู้ใหญ่ไม่ทันยุค?
ไม่ๆ ดิฉันยังสงสัยตัวเองเลยว่า เหมือนเบื้องบนเขาขีดเส้นมาเรื่อยๆ พอเป็นยุคนี้ก็ไปอย่างนั้น ยุคนี้ไปทำอย่างนี้ ออกจากโทรทัศน์ก็ไปทำออนไลน์ ตอนนั้นมดดำชวน แต่เราก็ไม่เอา ไม่ทำเลย
เคยเสียใจมั้ยกับความคิดของตัวเอง?
เอาจริงๆ นะ ดิฉันก็เป็นคนรุ่นใหม่ เข้าใจทุกสิ่งทุกอยาง แต่ดิฉันเคยโดนแอนตี้จากรุ่นเก่ามารุ่นใหม่ ดิฉันคือรุ่นคาบเกี่ยวกับโบราณและสมัยใหม่ ยุคนนั้นเป็นยุคแอนตี้คนโบราณ แต่เราก็ยึดติดกับยุคโบราณเพราะถูกปลูกฝังมา แต่พอรับอารยธรรมใหม่เราก็ชอบ เราออกไปต่อสู้ประชาธิปไตยเราก็ทำ เมื่อมาตอนที่แก่ตอนนี้แล้วมีรุ่นใหม่มาก็เข้าใจ เพราะฉันเคยเป็นมาก่อน ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ แต่เด็กเขาไม่ได้เกิดมาโบราณแบบเราก็จะไม่เข้าใจพื้นฐานตรงนี้ แต่เราเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงที่มีรุ่นใหม่มา ก็เข้าใจหมดทุกสิ่งทุกอย่าง เราเข้าใจ แต่ต้องมีเหตุและมีผลให้ตอบรับได้ในสิ่งที่เป็นสิ่งใหม่เกิดขึ้น ต้องอะลุ่มอล่วยซึ่งกันและกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป
เด็กทุกคนมีอิสระทางความคิด?
มันเป็นธรรมดาที่ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันมีการเปลี่ยนแปลง พอหมดยุคเราก็ต้องให้คนอื่นทำต่อ เพราะเราทำมาแล้ว มันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง พอเหมาะพอควร อย่าหัก ตอนช่วงเราเหมือนจะหักเหมือนกัน และแทบจะหักแล้วด้วย แต่เราเกิดในพื้นฐานของความเป็นโบราณอยู่ เลยมีจิตสำนึกเกิดขึ้น ไม่ใช่เราไม่เคยทำ ไม่ใช่เราไม่เคยแอนตี้ ไม่ใช่ไม่เคยออกนอกกรอบ ออกนอกกรอบสุดฤทธิ์มาก แต่มันดูละมุนละม่อมไม่ได้ทำร้ายใคร หรือทำให้ใครเดือดร้อน ออกนอกกรอบและผู้ใหญ่ในยุคนั้นก็รับไม่ได้ มองว่าเราเป็นอะไร
คิดว่ามันเป็นบทลงโทษที่คนสมัยใหม่เขาลงโทษพวกเราแล้วหรือเปล่า?
เดี๋ยวนี้ทุกอย่างมีสื่อออนไลน์ มันไว (ย้อนกลับไปเสียใจมั้ย) ไม่ เราทำอะไรไปแล้ว ทุกอย่างที่ทำต้องมีสติ ถาไม่มีสติคือคนเสียสติ เรามีสติเรารู้ว่าเราทำอะไร เราคิดแล้วหรือยัง เราคิด และตอนนี้ฉันก็เงียบไปเยอะแล้ว ไม่มีอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ไม่พอใจก็ปรี๊ดในใจ ไม่โพสต์ ไม่คอมเมนต์ แล้วแต่ เพราะมันเป็นยุคของเขา เราก็นั่งดูเฉยๆ ทำอะไรไปก็เกิดผล
ยุคนี้เราเป็นคนดูบ้างก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นด่านหน้า?
วัยของฉันคือต้องนั่งดูแล้วนะ เคยเป็นมาแล้ว.
No comments:
Post a Comment