![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdis6eegZ2LIEzULKDccybxs2m45hlplcB7C9QJCqwKc7rlBGbAqZ0QkG1h7pTOG9ZkKxnju_K4qnLkOyZOdlC39N20Qji_Ra-LMkYwZdMvt70FOO4CKplLlaykzvg_ReYbSA7M2JqNNg59u1HUtRBl_W-tlcZM-pJ4Du3oBQa-JTu3yqS8dfkM2BgUMg/s1600/thum.jpg)
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ในเฟซบุ๊กเพจ BTimes ได้มีการรายงานว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร ประเมินว่าปีนี้อาจมียอดรถยนต์ถูกยึดสูงถึง 1 ล้านคัน เพียงแค่ 3 เดือนแรกของปี พบว่าบัญชีสินเชื่อรถยนต์ที่เป็นลูกหนี้ค้างจ่ายค่างวด 1-3 งวด มีจำนวนกว่า 450,000 บัญชี และเป็นบัญชีหนี้เสียอีก กว่า 550,000 บัญชี
นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.สหการประมูล เปิดเผยว่า ทิศทางการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มือสองในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ ภาพรวมตลาดไม่ต่างจากช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
จำนวนรถถูกยึดยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนยังคงต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ถือว่าสภาพตลาดไม่ต่างจากเมื่อครั้งเกิดผลกระทบจากโครงการรถยนต์คันแรก โดยหลังจากนี้ จำนวนรถถูกยึดจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องเตรียมแผนรองรับด้วยการเพิ่มจุดจอดรถยนต์ที่ถูกยึดอีก 10 จุด จากพื้นที่เดิมที่สามารถจุได้สูงสุด 40,000 คัน ปัจจุบันมียอดรถที่ถูกยึดจอดอยู่แล้วกว่า 2,000 คัน มากที่สุดเป็นรถกระบะ รองลงมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถเก๋ง ซึ่งการเพิ่มพื้นที่จอดรถ ไม่ใช่เพื่อรองรับจำนวนรถที่คาดว่าจะถูกยึดเพียงเหตุผลเดียว แต่สำรองพื้นที่ไว้รองรับธุรกิจการขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย
No comments:
Post a Comment